NUSA จับมือพันธมิตร ร่วมลงทุนโรงงานผลิตชุดตรวจATK

NUSA เผย กระบวนการซื้อหุ้น“วินด์เอนเนอร์ยี่”เสร็จวันนี้ คาดปี65 รับปันผลราว200 ล้าน หลังถือหุ้น8% เตรียมจับมือพันธมิตรจีน สร้างโรงงานผลิตชุดตรวจโควิด “ATK”

นายวิษณุ เทพเจริญประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน)หรือNUSA เปิดเผยว่าในวันนี้ (12 เม.ย.)บริษัทจะดำเนินการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุน จำนวน3,939.75 ล้านหุ้น ให้กับ ผู้ที่ขายหุ้นบริษัท วินด์เอนเนอร์ยี่ โฮลดิ้ง จำกัด (WEH) แก่บริษัท จำนวนไม่เกิน 8,755,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 8% ของหุ้นทั้งหมดของ WEH

ทั้งนี้บริษัทได้มีการเจรจากับผู้ถือหุ้นของ WEH เรียบร้อยแล้ว ซึ่งรายชื่อบางรายจะแตกต่างกับที่เคยแจ้งตลาดหลักทรัพย์ในก่อนหน้านี้ โดยบริษัทคาดว่าหลังจากเข้าถือหุ้นWEH คาดว่าปีนี้จะได้รับเงินปันผลประมาณ 200 ล้านบาท จากการถือหุ้นสัดส่วน 8% ซึ่งWEH มีการจ่ายเงินปันผลปีละ 2 ครั้ง

“หลังจากการเพิ่มทุน PP ดังกล่าวสำเร็จจัดสรรหุ้นดังกล่าวให้กับผู้ถือหุ้น WEH จะไม่ใช่เป็นบุคคลคนเดียวกัน และไม่มีใครถือหุ้นถึงจุดที่จะต้องทำเทนเดอร์หุ้นของ NUSA ซึ่งบริษัท ซึ่งการทำรายการโอนหุ้นจะเสร็จในวันนี้ และในช่วงกลางปีนี้บริษัทจะได้รับเงินปันผล”

สำหรับการดำเนินธุรกิจจากนี้ บริษัทจะมุ่งเน้น 3 ธุรกิจ คือ ธุรกิจการแพทย์และสุขภาพ ธุรกิจพลังงาน และเกษตร โดยในส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัทไม่มีการเปิดโครงการใหม่แล้ว แต่จะเป็นการดำเนินโครงการต่อเนื่องจากที่ได้มีการเปิดโครงการไปก่อนหน้านี้

โดยธุรกิจการแพทย์และสุขภาพบริษัทมีแผนที่จะร่วมทุนกับนักลงทุนจีน ในการก่อสร้างโรงงานเพื่อผลิต ATK ในประเทศไทย ซึ่งตอนนี้ศึกษาเรื่องเครื่องจักรคาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงไตรมาส3ปี 2565 โดยจะใช้เงินลงทุนประมาณ50-60 ล้านบาท กำลังผลิตเบื้องต้น1-2 ล้านชิ้นต่อเดือน ซึ่งบริษัทย่อยของบริษัท เวิลด์ เมดิคอล อัลไลแอนซ์(ประเทศไทย)(WMA) จะเป็นผู้ดำเนินธุรกิจดังกล่าว

ทั้งนี้หากสถานการณ์โควิดคลี่คลายไป บริษัทสามารถใช้โรงงานดังกล่าวในการผลิตที่ตรวจครรภ์ ที่ตรวจสารเสพติดต่างๆต่อไปได้ฯลฯ

และในส่วนธุรกิจการแพทย์ จะขยายเป็นแฟรนไชส์ เพราะปัจจุบันมีธุรกิจโรงแรมหลายแห่งที่สนใจที่จะทำธุรกิจเวลเนสในโรงแรมโดยซึ่งบริษัทจะให้บริการผ่านแพลตฟอร์ม ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีแพลตฟอร์มหมอฮัลโหล ซึ่งเป็นการให้บริการทางการแพทย์ผ่านทางไกล(วีดีโอคอล)

สำหรับในปีนี้บริษัทตั้งเป้ารายได้ประมาณ 3,800 ล้านบาท แบ่งเป็น ธุรกิจทางการแพทย์และสุขภาพอยู่ที่ 1,700 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากการขายATKประมาณ 800ล้านบาท ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 1,700 ล้านบาท ที่เหลือมาจากธุรกิจอื่นๆ

อ้างอิง
https://www.bangkokbiznews.com/business