KCE เอาไงต่อ |ออฟเรคคอร์ด

March 19, 2022 0 Comments

KCE กลับมาราคาพุ่งหลังเจอเทขายกดราคาลงไปลึก ทำเอาราคาหุ้นได้รีบาวด์ อัพไซต์เหลือเพียบ !!!
๐๐๐ KCE เอาไงต่อ

ขาลงและขาขึ้น !!! ไม่มีอยู่จริงในตลาดหุ้น ยิ่งในช่วงปัจจัยที่คาดเดาได้ยากทั้ง “สงคราม” “ เชื้อโรค” และ “ฟันด์โฟว์” ดูจากดัชนีรีบาวด์หนัก แต่ เวลาลงก็พาใจหายยิ่ง ตลาดหุ้นไทย พลิกชั่วข้ามวัน หลังกังวลสถานการณ์จีน-ฮ่องกงยังลามไปยัง หุ้นส่งออก เจอกระทบหนักเกิดการเทขายและลดราคาเป้าหมายลงอย่างแรง

 

หุ้น KCE เป็นหุ้นยอดนิยมในกลุ่มชิ้นส่วนฯ เจอ กระหน่ำเทขาย ไม่ยั้งในช่วงที่ผ่านมาจากราคาติดลมบนไป 90 บาท ร่วงไม่เป็นท่าเทขายกันเหมือนธุรกิจขาดทุนหนัก จนราคามานิ่งที่ 58-60 บาท

สารพัดข่าวร้ายรุมเร้ามาได้จังหวะดีให้ขาย “บาทแข็งค่า” “ออเดอร์ค้างทำสะดุดในงบไตรมาส 4/64” “โรงงานใหม่สายผลิตมีปัญหา” ผสมกับ “บล็อกเทรด” พร้อมใจขายออกมา

รอบนี้ใครรอจังหวะ “มองขึ้น” ตามภาษาหุ้น “อัพไซต์” ข้างบนมีให้ลุ้นเพียบ แม้จะถูกหั่นเป้าหมายราคาหุ้นจาก 100 บาทอัพ เป็น 90 บาทแทน แต่เทียบราคาวันนี้น่าเลิฟน่าลุ้นที่สุด

๐๐๐

หุ้นไทยเด้งแรงกว่า 20 จุด ตามภูมิภาค โดยหุ้นบิ๊กแคป แบงก์ พลังงาน ค้าปลีก นำทีมขึ้นมาอย่างคึกคัก ก่อนที่จะทราบผลการประชุมเฟด ซึ่งประเมินว่าน่าจะได้เห็นการขึ้นดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.25%

โดยดัชนีฯ ปิดการซื้อขายที่ 1,667.92 จุด เพิ่มขึ้น 23.56 จุด หรือ 1.43% ระหว่างวันแตะระดับสูงสุดที่ 1,668.95 จุด และระดับต่ำสุดที่ 1,653.87 จุด มูลค่าการซื้อขาย 78,168.02 ล้านบาท

นักลงทุนต่างชาติซื้อ 6,440.74 ล้านบาท นักลงทุนสถาบันซื้อ 311.37 ล้านบาท พอร์ตโบรกฯ ขาย 463.43 ล้านบาท และนักลงทุนรายย่อยขาย 6,288.69 ล้านบาท

๐๐๐

หุ้นบมจ.เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ (WORK) เด้งแรง 9.44% ปิดที่ 27.25 บาท รับข่าวหลังกลุ่มบมจ.เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป (MAJOR) เข้ามาถือหุ้น 5% หวังผสานความร่วมมือต่อยอดธุรกิจบันเทิง โดยถือเป็นพันธมิตรที่คุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว เพราะก่อนหน้านี้เคยจับมือผลิตภาพยนตร์ร่วมกันมาก่อน

โดย MAJOR มีแผนเข้าถือหุ้น WORK ไม่เกิน 10% เป็นสูตรเดียวกับที่เข้าไปลงทุนใน บมจ.เถ้าแก่น้อย ฟู๊ดแอนด์มาร์เก็ตติ้ง (TKN) ก่อนหน้านี้ เพื่อร่วมมือขยายตลาดป๊อปคอร์นทั้งในประเทศและต่างประเทศ

การเดินเกมครั้งนี้ของ MAJOR น่าสนใจ เป็นช่องทางใหม่ในการหารายได้ และกระจายความเสี่ยงจากธุรกิจโรงหนังที่เจ็บหนักตั้งแต่เกิดโรคระบาดโควิด-19 โดยล่าสุดราคาหุ้น MAJOR มาปิด 20 บาท เพิ่มขึ้น 0.40บาท หรือ 2.04%

๐๐๐

“หุ้นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์” เด้งกลับ! จับมือบวกคึกคัก รีบาวด์ตามดัชนีแนสแด็กกระดานหุ้นไอทีของสหรัฐ หลังที่ผ่านมาดิ่งหนักยกกลุ่ม ท่ามกลางสารพัดปัจจัยกดดัน ทั้งปัญหาขาดแคลนชิพ สงครามรัสเซียยูเครน สถานการณ์โควิดที่ตลาดใหญ่อย่างจีน ผู้ติดเชื้อกลับมาพุ่งแรงอีกครั้ง

รอบนี้นำทีมโดย บมจ.เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ (KCE) ขึ้นมาปิดที่ 63 บาท เพิ่มขึ้น 5.50 บาท หรือ 9.57% ส่วนบมจ.ฮานา ไมโครอิเล็คโทรนิคส (HANA) ปิด 47.50 บาท เพิ่มขึ้น 3 บาท หรือ 6.74% และอีกตัวที่มาแรงเห็นจะเป็น บมจ.เอสวีไอ (SVI) ปิด 8.15 บาท เพิ่มขึ้น 0.65 บาท หรือ 8.67%

๐๐๐

“กลุ่มโรงพยาบาล” อาจจะได้รับจิตวิทยาเชิงลบเล็กๆ หลังวานนี้เป็นวันแรกที่มาตรการ UCEP COVID Plus มีผลบังคับใช้ โดยกลุ่มผู้ป่วยสีเขียวไม่สามารถเข้ารักษาได้ทุกโรงพยาบาลแล้ว โดยต้องรักษาตามสิทธิที่ตัวเองมีอยู่เท่านั้น

เลยกดดันให้หุ้นกลุ่มโรงพยาบาลไม่ค่อยไปไหน สวนทางตลาดที่เด้งแรง โดยบมจ.บางกอก เชน ฮอสปิทอล (BCH) ที่มีสัดส่วนรายได้จากโควิดมากที่สุด ราคาไม่เปลี่ยนแปลง 21 บาท ส่วนบมจ.โรงพยาบาลจุฬารัตน์ (CHG) ที่มีสัดส่วนรองลงมา ปิด 3.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.02 บาท หรือ 0.53% ด้านพี่ใหญ่ของกลุ่ม บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS) ร่วง ปิด 25.25บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ 2.88%

๐๐๐

ส่วนวันนี้ตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมรับน้องใหม่ บมจ.บีบีจีไอ (BBGI) บริษัทลูกของบมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) และ บมจ.น้ำตาลขอนแก่น (KSL) รอลุ้นว่าจะยืนเหนือจองจากราคาไอพีโอที่ 10.50 บาท ได้หรือไม่?

อ้างอิง
https://www.bangkokbiznews.com/business/